Steve Jobs – Nattapon's Blog

Steve Jobs โดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน (แปลไทย)

ครูณัฐพล19/12/201118/05/201401 mins

ได้มาครอบครองเรียบร้อย หลังจากที่เมื่อวาน [18 ธ.ค. 54] พอมีเวลาแวะไปที่ se-ed ครับ เป็นหนังสือเล่มที่อยากได้และอยากอ่านมากที่สุดเล่มหนึ่งเลยทีเดียว เพราะส่วนตัวชอบบุคคลคนนี้อยู่แล้ว คือชอบในการทำงาน ความทุ่มเท และแนวคิดที่ลึกล้ำไม่ซ้ำใคร เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับ Steve Jobs มาหลายเล่มครับ เพราะมีคนไทยเขียนเกี่ยวกับ Steve Jobs อยู่มากพอสมควร แต่…สิ่งที่หนังสือเล่มนี้ต่างออกไปจากเล่มอื่นๆ เพราะผู้เขียนได้เขียนเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของ Jobs โดยตรง การสัมภาษณ์จาก Jobs และคนรอบข้าง ทั้งคนรัก และคนที่เกลียด และนำมาเปิดเผยให้เราอ่านกันในหนังสือเล่มนี้ เนื้อหาของหนังสือเริ่มตั้งแต่ Jobs เกิดมาเลยครับ และจนกระทั่งเขาตายไปในที่สุด และผู้เขียนเป็นผู้ที่ Jobs โทรบอกให้เขามาเขียนชีวประวัติให้ เป็นคนที่ Jobs ต้องขอร้องให้มาเขียนครับ และ Jobs ก็อนุญาตให้เขียนได้เต็มที่โดยไม่ปิดบังและไม่ต้องให้ Jobs อ่านก่อนตีพิมพ์ (และเขาก็ไม่ได้อ่านจริงๆ) หนังสือเล่มนี้เปิดเผยทุกแง่มุมในชีวิตของ Steve Jobs ซึ่งก็เป็นเหมือนกันชีวิตของคนทั่วไปที่มีทั้งมุมที่ดีกับไม่ดี ดังนั้นหากจะเอาบุคคลคนนี้เป็นแบบอย่าง แนะนำให้นำสิ่งที่ดีๆ ของเขามาเป็นแบบอย่างครับ เขาเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง

หนังสือประวัติ Steve Jobs

ครูณัฐพล26/10/201118/05/201401 mins

เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่อยากได้มาก แต่ยังไม่มีปัญญาซื้อเพราะต้องสั่งซื้อผ่านทาง amazon แล้วก็ยังไม่มีคนแปลเป็นไทยให้อ่านง่ายๆ อีกด้วย เลยเอาไว้ก่อนดีกว่า รอให้มีคนแปลเป็นไทย หรือมีคนนำเข้ามาขายในไทยก่อน คงต้องหามาเก็บตั้งไว้ในชั้นหนังสือซะหน่อย หนังสือที่ว่ามานี้ก็คือหนังสือชีวประวัติของ Steve Jobs ครับ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จักเค้าบ้าง เคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง หรืออย่างน้อยก็ต้องได้ยินชื่อ iPhone iPod หรือ iPad ที่เป็นผลผลิตสำคัญที่ทำให้ Apple โด่งดังมาได้ถึงระดับนี้ ที่อยากได้หนังสือนี้ก็ไม่ใช่ว่าอะไรหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่าเคยดูหนังเรื่อง Pirate of Silicon Valley มา ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของสตีฟ จ๊อบส์ และบริษัท Apple อยากจะรู้ว่ามันจะเหมือนกับที่ดูในหนังมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ที่เหมือนแน่นอนก็คือผลงานที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดขายสำคัญของเขาและ apple ครับ และอีกประเด็นหนึ่งที่อยากได้หนังสือแนวนี้ก็คือการได้รับพลังและความคิดใหม่จากการอ่านหนังสือครับ ผมชอบอ่านหนังสือที่เป็นการเขียนจากประสบการณ์ของบุคคล ความคิดของบุคคล และแนวทางในการดำเนินชีวิต แนวการคิด เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ ทำให้เห็นหลักการ ทฤษฎีต่างๆ ที่บุคคลดังๆ เค้าคิดกัน ผมก็หวังว่าจะได้ครอบครองหนังสือเล่มนี้โดยเร็วนะครับ อยากได้เหลือเกิน ^^

In-Live

Steve Jobs : 1955-2011

ครูณัฐพล06/10/201101 mins

ทันทีที่เปิดคอมพิวเตอร์และอ่านข่าวสำนักหนึ่งในอินเทอร์เน็ต ก็พบข่าวที่ว่า Steve Jobs ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ซึ่งก็รู้สึกอื้งไปพักหนึ่งและก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง เลยลองเข้าเว็บไซต์ของ Apple [www.apple.com] ดู และก็เห็นประกาศของทาง apple จริงที่ขึ้นหน้าเว็บไซต์ว่า Steve Jobs ได้เสียชีวิตแล้ว สำหรับผมคงไม่รู้สึกผูกพันอะไรกับ Steve Jobs มากนัก แต่รู้สึกเสียดาย เสียดายความรู้ ความสามารถ และความคิดที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ซึ่งความคิดนั้นๆ มักจะออกมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัย น่าใช้ น่าสนใจ ยังจำได้ดีเมื่อ 5 ปีก่อนที่ได้ซื้อ mac เครื่องแรก เป็น macbook สีขาว ธรรมดาๆ นี่เอง ที่ซื้อก็ด้วยความชอบในตัวระบบปฏิบ้ติการ ลูกเล่นต่างๆ ที่ทำให้การทำงานสะดวกและง่ายกว่าการใช้ xp เป็นไหนๆ และผมก็หลงรัก mac ทันทีที่ได้ใช้งานและเป็นเจ้าของมัน หลังจากนั้นก็มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามมาเรื่อยๆ ทั้ง iPhone, iPad ต่างๆ นานา และทำให้ผมรู้จักผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ Steve…

Book review : เก่ง presentation อย่าง Steve Jobs

ครูณัฐพล03/01/201118/05/201401 mins

เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เห็นแล้วก็คว้ามาเป็นเจ้าของทันทีโดยที่ไม่ได้ ลองอ่านเนื้อหาข้างในก่อน เพราะเป็นหนังสือที่เขียนถึงบุคคลที่แอบปลี้มเป็นการส่วนตัว ก็คือ Steve Jobs หลายๆ คนที่เคยดูการนำเสนอของ Steve Jobs ในงาน WWDC ก็คงชอบแนวการนำเสนอของ Jobs เหมือนกัน เพราะการเสนอส่วนใหญ่จะไม่มีเนื้อหาบนสไลด์มากนัก จะมีก็แต่รูปภาพ ซึ่งมีความหมายและสามารถบ่งบอกอะไรได้มากมายกว่าคำพูดเสียอีก หนังสือเล่มนี้ก็ได้รวบรวมเทคนิควิธีการนำเสนอ การทำให้คำพูดหรือสิ่งง่ายๆ หรือซับซ้อน กลายเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น ทำให้คนรอบข้างที่ได้ฟังรับรู้ได้ว่างานธรรมดาๆ จนถึงงานระดับหรูหราไฮโซที่เรานำเสนอไปนั้น มันไม่ธรรมดา ผู้ฟังทุกคนสามารถเข้าใจได้ตรงกันและเกิดความประทับใจในสิ่งนั้น สำหรับเนื้อหาในหนังสือ ก็แบ่งเป็นส่วนๆ ไว้อย่างชัดเจน ถึงขั้นตอนการนำเสนอตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการพูดบนเวทีให้คนดูจับจ้องอยู่ กับสิ่งที่เราพูด โดยผู้เขียนได้แบ่งเนื้อหาเป็น 3 องค์ประกอบ แต่ละองค์ประกอบแบ่งเป็นฉากย่อยๆ ให้ผู้อ่านสามารถสรุปเนื้อหาได้ อธิบายมากไปอาจจะทำให้สับสน ดังนั้นผมก็เลยเสนอให้ทุกคนลองไปหาอ่านดูนะครับ และผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้คงจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ คนที่ยังนำเสนอหรือทำสไลด์ที่มีแต่ bullet อยู่ และอาจจะทำให้แนวทางการนำเสนอของเราเปลี่ยนไปจากเดิม