Year: 2015
ตรวจครรภ์ครั้งที่สองและความกังวลที่เกิดขึ้น
หลังจากภรรยาของผมได้ตรวจครรภ์ในครั้งแรกที่เข้าไปฝากครรภ์กับคุณหมอ โดยตรวจความปกติของครรภ์ อายุครรภ์ และเก็บเลือดภรรยาผมไปตรวจ วันนี้วันที่ 14 ก.พ. 2558 คุณหมอนัดตรวจครรภ์เป็นครั้งที่สองครับและฟังผลเลือด ซึ่งจากการฟังคุณหมออธิบายต่างๆ นานาแล้ว ทำให้ผมกับภรรยาเกิดความกังวลใจเป็นใน 2 เรื่องครับ เรื่องที่ 1 หมอตรวจครรภ์แล้วบอกว่าไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้น จำเป็นต้องอัลตร้าซาวด์ ซึ่งผมและภรรยาก็ตัดสินใจให้อัลตร้าซาวด์ในวันนั้นทันทีครับ ซึ่งผลออกมาว่าลูกปกติดี แค่มดลูกยังไม่ลอยตัวขึ้นมาเท่านั้นเอง เรื่องที่ 2 จากผลการตรวจเลือดพบว่าภรรยาผมเป็นโลหิตจางหรือเป็นพาหะทาลัสซิเมีย แบบชนิด E ครับ ซึ่งหมอบอกว่าชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แค่บางครั้งการทำงานหรือออกแรงมากๆ จะทำให้เหนื่อยง่ายกว่าคนปกติเท่านั้นเอง แต่ถ้าผมเป็นโรคโลหิตจางด้วยล่ะก็ ลูกที่เกิดมาก็จะอันตรายครับ หมอจึงขอตรวจเลือดผม และหมอก็บ่นนิดหน่อยว่าคนไทยมักจะเป็นแบบนี้ คือแต่งงานไปแล้วค่อยมาตรวจกันทีหลัง 55 แต่ผมก็มั่นใจว่าผมปกติดีแน่นอนครับ ไม่เป็นโรคโลหิตจางแต่อย่างใด แต่ก็ต้องรอผลตรวจในการนัดครั้งต่อไปครับ หมอแนะนำว่าภรรยาผมควรทานเนื้อ นม ไข่มากๆ ควรทานไข่วันละ 1 ฟอง และหมอก็ให้ยาวิตามินรวมมาอีก 1 ชุดครับ เพื่อบำรุงคุณแม่มือใหม่ สำหรับการนัดครั้งต่อไป วันที่ 4 มีนาคม ครับ…
เดินทางไปฝากครรภ์
หลังจากศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลและแพทย์จากทั้งอินเทอร์เน็ตและคนรู้จัก สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะพาภรรยาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลบีแคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ครับ ซึ่งห่างจากบ้านโดยประมาณ 12 km. ที่นี่มีตึกแยกสำหรับเด็กและเกี่ยวกับการตั้งครรภ์แยกจากตึกผู้ป่วยทั่วไปครับ ซึ่งมั่นใจได้ว่าพอเดินเข้าไปแล้วก็จะเจอพ่อแม่มือใหม่เป็นส่วนใหญ่แน่นอน เมื่อเดินเข้าไป เจ้าหน้าที่ก็ดูแลต้อนรับอย่างดีครับ เค้าก็แนะนำ บลาๆๆๆๆ แล้วก็แนะนำแพ็คเกจฝากครรภ์ที่เหมาะสมกับอายุของคุณแม่ให้ครับ สำหรับแพ็คเกจคลอดค่อยไปเลือกอีกทีตอนใกล้ๆ จะคลอดครับ จากการที่ผมค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต มีหลายท่านที่แนะนำคุณหมอที่ดูแลและบริการดีมาหลายท่านด้วยกัน ซึ่งผมก็เลือกแพทย์เป็นคุณหมอวิวัฒน์ ตามคำแนะนำของหลายๆ ท่าน ในครั้งแรกนี้คุณหมอก็ตรวจอาการทั่วๆไปของคุณแม่ คำนวณอายุครรภ์ ซึ่งจากการที่หมอคำนวณ อายุครรภ์ตอนนี้ 9 สัปดาห์แล้วครับ แล้วหมอก็แนะนำการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม แนะนำอาการของคนแพ้ท้อง เพื่อที่คุณแม่จะได้ไม่กังวล และตรวจเลือดครับ ใช้เวลาไม่นานมาก แล้วก็รับยา ยาที่ได้รับก็จะเป็นโฟเลตกับแคลเซียมครับ เป็นอันเสร็จสิ้นประสบการณ์การฝากครรภ์ครั้งแรกของภรรยาผมครับ
เลือกโรงพยาบาลที่จะฝากครรภ์และสิทธิ์ประกันสังคม
หลังจากที่รู้ว่าภรรยาของผมท้อง สิ่งแรกๆที่ผมคิดก็คือจะฝากครรภ์ที่ไหนดี หมอคนไหนดี และเราจะเลือกโรงพยาบาลอย่างไร เลือกหมออย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าไร่ คำถามพวกนี้มันอยู่ในหัวตั้งแต่ตอนนั้นครับ สิ่งที่ช่วยผมได้มากก็คืออินเทอร์เน็ต ค้นหาข้อมูลครับ เกี่ยวกับโรงพยาบาลใกล้ๆ บ้าน รวมทั้งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมและไกล้บ้านด้วย ด้วยที่บ้านผมอยู่ย่านลำลูกกา โรงพยาบาลที่ใกล้และผมมองเป็นอันดับแรกคือโรงพยาบาลสายไหมครับ เพราะภรรยามีประกันสังคมอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งผมก็ลองค้นหาข้อมูล และความเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์ในการคลอดจากโรงพยาบาลต่างๆ ที่อยู่ใกล้ๆ บ้านผม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าโรงพยาบาลบีแคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์ค่อนข้างโอเค หมอก็ดูแลเป็นอย่างดี (สำหรับการค้นหาข้อมูล ความเห็นจากผู้มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่ผมจะได้ข้อมูลจากเว็บไซต์พันทิพครับ) แต่ขณะเดียวกันก็มองโรงพยาบาลจุฬาฯ ไว้ด้วย เนื่องจากมีหลายความเห็นสนับสนุนที่นี่ แต่ก็ด้วยที่ไกลบ้านมาก คงจะไม่สะดวกในการเดินทาง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลบีแคร์ครับ ด้วยความเห็นสนับสนุนคือ ใกล้บ้าน มีตึกเด็กแยกจากผู้ป่วยทั่วไป มีแพ็คเกจให้เลือก ห้องพักเดี่ยว หมอดูแลดี และที่สำคัญคือเป็นเอกชนที่ราคาไม่แพงมากเกินไปครับ แล้วประกันสังคมทำอย่างไร จากการที่ภรรยาผมสอบถามกับบริษัทเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถเปลี่ยนได้เลย โดยถ้าต้องการความรวดเร็วก็ให้เดินทางไปยื่นเอกสารเองที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน ผมจึงจัดสินใจพาภรรยาไปเปลี่ยนสถานพยาบาลเองที่ปทุมธานีครับ ซึ่งต้องบอกเลยว่าสำนักงานประกันสังคมเค้าทำงานกันเร็วดีครับ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที หรือ 3 นาทีด้วยซ้ำ ก็ได้บัตรประกันสังคมใบใหม่ออกมาแล้ว โดยประกันสังคมนี้เปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลบีแคร์ครับ เพื่อความสะดวก หากเป็นไข้ไม่สบายจะได้มาแค่โรงพยาบาลเดียว เมื่อตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลได้แล้ว ก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลนั้นครับ…
เมื่อผมกำลังจะเป็นพ่อ…กำลังจะมีลูก
เมื่อภรรยาตั้งครรภ์ จะทำอย่างไร จะเตรียมตัวอย่างไร นี่เป็นคำถามที่เกิดขึ้นเมื่อผลตรวจจากเครื่องตรวจสอบการตั้งครรภ์บอกออกมาว่าครอบครัวผมกำลังจะมีสมาชิกครบถ้วนสมบูรณ์ครับ หลังจากที่ภรรยาผมมีอาการทานอาหารไม่ค่อยได้ อ่อนเพลีย และมีอาเจียรบ้าง ซึ่งตอนแรกก็คิดกันว่าอาจะเป็นเพราะความเครียดจากการทำงาน แต่อาการนี้ก็เป็นหลายวันครับ ไม่หายเสียที ทำให้คิดไปถึงว่า ผมกำลังจะมีลูกหรือเปล่า??? ก็เลยซื้อเครื่องตรวจสอบการตั้งครรภ์มาตรวจครับ ซึ่งผลก็ออกมาว่า ภรรยาผมกำลังตั้งครรภ์ ความรู้สึกแรกของผมก็คือความดีใจบวกกับรู้สึกสับสนว่าจะเตรียมตัวเป็นพ่ออย่างไรดี จะต้องดูแลภรรยาอย่างไร ต้องเตรียมข้าวของอุปกรณ์ หรือต้องศึกษาอะไรบ้าง สิ่งที่นึกออก ณ ตอนนั้นก็คือค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตครับ และก็เตรียมหาข้อมูลโรงพยาบาลที่ดีและใกล้บ้านสำหรับฝากครรภ์ สำหรับตอนหน้าจะมาเล่าต่อถึงการเลือกโรงพยาบาลที่จะฝากครรภ์และการไปพบหมอครั้งแรกครับ