หลังจากที่รู้ว่าภรรยาของผมท้อง สิ่งแรกๆที่ผมคิดก็คือจะฝากครรภ์ที่ไหนดี หมอคนไหนดี และเราจะเลือกโรงพยาบาลอย่างไร เลือกหมออย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าไร่ คำถามพวกนี้มันอยู่ในหัวตั้งแต่ตอนนั้นครับ
สิ่งที่ช่วยผมได้มากก็คืออินเทอร์เน็ต ค้นหาข้อมูลครับ เกี่ยวกับโรงพยาบาลใกล้ๆ บ้าน รวมทั้งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมและไกล้บ้านด้วย
ด้วยที่บ้านผมอยู่ย่านลำลูกกา โรงพยาบาลที่ใกล้และผมมองเป็นอันดับแรกคือโรงพยาบาลสายไหมครับ เพราะภรรยามีประกันสังคมอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งผมก็ลองค้นหาข้อมูล และความเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์ในการคลอดจากโรงพยาบาลต่างๆ ที่อยู่ใกล้ๆ บ้านผม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าโรงพยาบาลบีแคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์ค่อนข้างโอเค หมอก็ดูแลเป็นอย่างดี (สำหรับการค้นหาข้อมูล ความเห็นจากผู้มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่ผมจะได้ข้อมูลจากเว็บไซต์พันทิพครับ)
แต่ขณะเดียวกันก็มองโรงพยาบาลจุฬาฯ ไว้ด้วย เนื่องจากมีหลายความเห็นสนับสนุนที่นี่ แต่ก็ด้วยที่ไกลบ้านมาก คงจะไม่สะดวกในการเดินทาง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลบีแคร์ครับ ด้วยความเห็นสนับสนุนคือ ใกล้บ้าน มีตึกเด็กแยกจากผู้ป่วยทั่วไป มีแพ็คเกจให้เลือก ห้องพักเดี่ยว หมอดูแลดี และที่สำคัญคือเป็นเอกชนที่ราคาไม่แพงมากเกินไปครับ
แล้วประกันสังคมทำอย่างไร จากการที่ภรรยาผมสอบถามกับบริษัทเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถเปลี่ยนได้เลย โดยถ้าต้องการความรวดเร็วก็ให้เดินทางไปยื่นเอกสารเองที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน ผมจึงจัดสินใจพาภรรยาไปเปลี่ยนสถานพยาบาลเองที่ปทุมธานีครับ ซึ่งต้องบอกเลยว่าสำนักงานประกันสังคมเค้าทำงานกันเร็วดีครับ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที หรือ 3 นาทีด้วยซ้ำ ก็ได้บัตรประกันสังคมใบใหม่ออกมาแล้ว โดยประกันสังคมนี้เปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลบีแคร์ครับ เพื่อความสะดวก หากเป็นไข้ไม่สบายจะได้มาแค่โรงพยาบาลเดียว
เมื่อตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลได้แล้ว ก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลนั้นครับ ซึ่งโรงพยาบาลบีแคร์ที่ผมเลือกมีการจัดแพ็คเกจการฝากครรภ์และการคลอดบุตรไว้ให้เราเลือกแล้ว ซึ่งก็สะดวก และง่ายต่อการตัดสินใจครับ
สำหรับการเลือกโรงพยาบาลก็มีเพียงเท่านี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม จะฝากคำถามไว้ด้านล่างก็ได้นะครับ
สำหรับตอนต่อไปจะมาเล่าถึงการไปฝากครรภ์ครั้งแรกครับ